ชาวอมอไรท์หรือชาวบาบิโลเนีย
ประมาณปี 2000 ก่อนคริสตกาล อมอไรท์เป็นเซมิติค
เร่ร่อนจากซีเรียเข้ารุกรานดินแดนตะวันตกของอัคคัต ภายใต้การนำของฮัมมูราบี (Hummurabi 1792-1750 B.C.) กษัตริย์องค์ที่ 6 ของอมอไรท์
ได้รวมดินแดนซูเมอร์-อัคคัต เข้าด้วยกัน ก่อตั้งจักรวรรดิบาลิโลเนียครั้งที่หนึ่งขึ้น
(The First Babylonian
Empire) ที่เมือง
บาบิโลน (Badylon) บนฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีส
เป็นเมืองหลวงสมัยของกษัตริย์ฮัมมูราบี คือ ยุคทองของจักรวรรดิบาบิโลน
บาบิโลนเข้มแข็งขึ้นตามลำดับจนได้เป็นนครใหญ่ของอาณาจักรเมโสโปเตเมียทั้งหมด
ต่อมาเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายว่าจักรวรรดิบาบิโลเนียพวกบาบิโลนสามารถเอาชนะบรรดาเพื่อนบ้านคือพวกอัคคาเดียน
และสุเมเรียนได้
ประมวลกฎหมายของฮัมมูราบี
การร่างประมวลกฎหมาย
(Hammurabi Code) พระเจ้าฮัมมูราบีทรงเป็นที่รู้จักในฐานะเป็น
ผู้สร้างประมวลกฎหมายเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสังคมและจริยธรรมแห่งชีวิตทรงกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำประมวลกฎหมายว่า
“เพื่อผดุงความยุติธรรมให้คงอยู่ในแผ่นดิน
ทำลายคนชั่วและคนร้ายป้องกันคนแข็งแรงข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า...และเพื่อพัฒนาสวัสดิการสำหรับประชาชน”
ประมวลกฎหมายนี้จารึกอยู่บนแผ่นดินไดโดไรท์สีดำขนาดสูง8ฟุตจารึกด้วยอักษร
Cuniform ประมวลกฎหมายนี้ประดิษฐ์ไว้ในวิหารของเทพมาร์คุด
(marduk) ซึ่งเป็นเทพสูงสุดของบาบิโลนต่อมาทีมนักโบราณคดีฝรั่งเศสขุดพบที่ประเทศอิรักในช่วงฤดูหนาวปี
1901 ถึง 1902 หินสลักนี้แตกเป็น 3 ชิ้น และได้รับการบูรณะ ตอนบนของแผ่นหินมีรูปแกะสลักภาพเทพเจ้ากำลังประทาน
ประมวลกฎหมายให้แก่ ฮัมมูราบี ปัจจุบัน
ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ กรุงปารีส
แผ่นหินนี้นับเป็นโบราณวัตถุที่มีค่ายิ่งในทางประวัติศาสตร์
เพราะข้อความในประมวลกฎหมายสะท้อนให้เห็นถึงสภาพของสังคมBabyloniaในสมัยนั้นเป็นอย่างดี ทำให้เราทราบว่า
Babylonia ประกอบขึ้นด้วยคนชั้นต่างๆ คือ
กรรมกรและทาส
กฎหมายของฮัมมูราบี
1.คล้ายกฎหมายของพวกสุเมเรียน
คือ อาศัยหลัก Lex
talionis คือ
ใช้ลัทธิสนองตอบ คือ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” (An eye for an eye , a tooth for a
tooth)
2.มีความเปลี่ยนแปลงไปจากกฎหมายของพวกสุเมเรียน
คือ การให้ความยุติธรรมนั้นต้องเป็นหน้าที่ของรัฐ
(การให้ความยุติธรรมในสมัยแรกเริ่มนั้นเป็นหน้าที่ของบุคคล)
3.ให้สิทธิแก่สตรี
สตรีมีสิทธิฟ้องสามีได้
4.การค้าขายจะต้องได้พระบรมราชานุญาต
จำกัดกำไรให้เพียง 20%
5.กำหนดเวลาการตกเป็นทาสหนี้สินเพียง
3 ปี
ทั้งนี้เป็นเพราะนอกจากจะทรงสามารถในการรบและการปกครองเป็นผลให้
จักรวรรดิขยายกว้างใหญ่ไพศาล ฮัมมูราบีปรับปรุงอารยธรรมสุเมเรียนให้ดีขึ้น
และในที่สุดจักรวรรดิ
บาบิโลนก็ได้เริ่มเสื่อมลงเป็นลำดับภายหลังการสิ้นพระชนม์ของฮัมมูราบีเพราะ
1.กษัตริย์ผู้สืบทอดต่อมาไร้ความสามารถในการปกครองและการรบ
เป็นผลให้กลุ่มชนภายใต้ การปกครองของอะมอไรท์ดำเนินการแยกตนเป็นอิสระ
2.ประมาณปี
1590 ก่อนคริสตกาล ฮิตไตท์ชนชาตินักรบจากเอเซียไมเนอร์ เข้ารุกรานมุ่งยึด
กรุงบาบิโลนแต่ไม่สำเร็จ
3.
การก่อกวนของเฮอเรีย (Hurrians)
แห่งอาณาจักรมิทานมิ (Mitanni) อาณาจักรนี้ตั้งอยู่
ทางตอนเหนือของลุ่มแม่น้ำยูเฟรตีส
4.
งบประมาณปลายศตวรรษที่ 16 ก่อนคริตกาล คัสไซส์ (Kassites) อนารยชนจากเทือกเขา
ใกล้ดินแดนเปอร์เซียตะวันตกเข้ารุกรานและโค่นอำนาจอะมอไรท์ได้สำเร็จ